เป็นไม้ที่ได้มาจากต้นบัลซ่าที่ขึ้นเองในป่าร้อนชื้นของทวีปอเมริกาใต้ ไม้บัลซ่ามีคุณสมบัติที่เหมาะในการทำชิ้นส่วนเครื่องบินยางและเครื่องร่อนมากที่สุด คือมีความเบา แต่ที่จริงแล้วไม้บัลซ่าเป็นไม้ที่มีความแข็งแรงมากเมื่อเทียบน้ำหนักต่อน้ำหนักกับไม้ประเภทอื่น ปัจจุบันไม้บัลซ่าได้ถูกนำเข้ามาจากประเทศในแถบละตินอเมริกา และประเทศในแถบอเมริกาเหนือทำให้สามารถหาซื้อได้จากร้านที่ขายอุปกรณ์เครื่องบินเล็ก ร้านขายอุปกรณ์เครื่องเขียนหรือที่แผนกเครื่องเขียนของห้างใหญ่ๆเช่นร้าน B2S ไม้ที่มีขายส่วนมากเขาจะเอาไว้ทำแบบจำลองบ้านหรืออาคารที่ไม่ต้องกังวลเรื่องน้ำหนักมาก ฉะนั้นเวลาเราจะซื้อเอามาทำเครื่องบินยางจึงต้องเลือกไม้ที่มีน้ำหนักเบาที่สุด โดยสังเกตุจากสีของเนื้อไม้ ถ้าสีเข้มจะมีเนื้อแข็งมากแต่จะหนักกว่าสีที่อ่อนกว่า ขนาดที่ใช้ทำเครื่องบินยางจะใช้เพียง 3 ขนาดคือ 1/32, 1/16 และ 1/8 นิ้ว (0.8, 1.5 และ 3 มม.) สำหรับบ้านเราขนาด 0.8 มม.อาจหายากแต่สามารถใช้ขนาด 1มม.แทนได้ ปกติไม้ Balsa ที่มีขายในบ้านเราจะมีความยาว 36 นิ้ว หน้ากว้าง 3 และ 4 นิ้ว ราคาแผ่นละ 70-200 บาท *ขึ้นอยู่กับขนาด
ชนิดที่ใช้สำหรับการสร้างเครื่องบินเล็กนั้นราคาแพงมาก(ตารางฟุตละประมาณ 200-300 บาท) เป็นไม้ที่มีเนื้อละเอียดสวยงามมาก มีความหนาตั้งแต่ 2 มม. ขึ้นไป แต่ก็สามารถใช้ไม้อัดสำหรับงานประดิษฐ์ตามร้านขายเครื่องเขียนทั่วไปแทนได้เหมือนกัน ส่วนใหญ่นำมาทำลำตัวเรื่องร่อน หรือจุดที่ต้องการความแข็งแรง ราคาประมาณแผ่นละ 15-50 บาท
ไม้ไผ่
เป็นไม้พื้นบ้านทั่วไป หาได้ง่าย และราคาถูก สามารถนำมาทำเครื่องบินยางและเครื่องร่อนได้ โดยใช้ไม้ไผ่ที่เหลากลมๆ หรือไม้เสียบลูกชิ้น ไม้บาร์บิคิว เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 2-5มม. ดัดแปลงมาเสริมความแข็งแรงส่วนต่างๆของเครื่องบิน หรือทำไม้แกนรัดยางปีก
ไม้ไผ่